8 ตัวละครน่าสนใจ jujutsu kaisen ตัวละคร มหาเวทย์ผนึกมาร ซี

Share on facebook
Share on twitter
Share on linkedin

มหาเวทย์ผนึกมารซีซั่น 2 มาแล้วจ้าาา เป็นอีกหนึ่งอนิเมะที่กระแสฮิตไม่มีหยุด ทุกคนตั้งหน้าตั้งตารอซีซั่น 2 กันแบบสุดๆ เรื่องราวของผู้ใช้ไสยเวททั้ต้องต่อสู้กับเหล่าวิญญาณคำสาป โดยในซีซั่น 2 นี้จะมีย้อนวันวานของอาจารย์โกโจและเพื่อนๆ ของเขา และเรายังจะได้เห็นความเป็นมาของเกะโทอีกด้วย จริงๆ ทางเราก็เคยพาไปรู้จัก 10 ตัวละครสุดเท่ ไปแล้ว แต่เมื่อมันมีซีซั่นใหม่มามันก็เป็นธรรมดาที่จะมีตัวละครใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมา ดังนั้นก็เลยจะมาพาไปดูตัวตึงในซีซั่น 2 กันต่อเลย จะมีใครบ้างนั้นไปชมพร้อมๆ กันเลย

1. โกโจ ซาโตรุ

ในซีซั่น 2 นี้เราจะได้เห็นโกโจทั้งในวัยนักเรียนและในแบบฉบับอาจารย์ ซึ่งเขาคนนี้ก็เป็นตัวตึงตัวจี๊ดมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ที่สำคัญรูปร่างหน้าตาก็ดีไปอีกจ้า แล้วก็ยังมีความรั่วๆ แต่ไอ้นิสัยยียวนตามประสาโกโจนี่แหละที่ทำให้ตัวละครตัวนี้โดดเด่นน่าสนใจมาก บุคลิกลักษณะนิสัยที่เด่นชัดของเขานอกจากความกวนและความขี้เล่นแล้ว เขายังจัดเป็นคนที่ขาดความเห็นอกเห็นใจใครโดยเฉพาะศัตรู ขาดความเคารพต่อผู้ที่อายุมากกว่า หรือก็คือบรรดาคนที่เขาเรียกว่าพวกเบื้องบน ตระกูลโกโจของเขาจัดเป็น 1 ใน 3 ตระกูลหลักที่มีอิทธิพลในแวดวงผู้ใช้ไสยเวท และตระกูลโกโจนั้นจะมีความสามารถที่โดดเด่นที่สืบทอดกันมาก็คือ “Six Eyes” หรือก็คือ “ริคุกัน” ( ตาทิพย์ ) และโกโจ ซาโตรุคนนี้ก็เป็นคนแรกของตระกูลในรอบ 100 ปีที่มีริคุกัน

ด้านพลังและความสามารถ

  • ทักษะการต่อสู้โดดเด่นดีเยี่ยมทั้งในด้านการใช้ไสยเวทและทักษะการต่อสู้ประชิดตัว เอีกทั้งเขานั้นยังจัดเป็นคนที่ค่อนข้างจะปราดเปรียวและรวดเร็ว มักจะเคลื่อนไหวในการต่อสู้ได้เร็วมาก นอกจากนี้เขายังมี “มุเก็น” ที่เสมือนข่ายพลังที่ทำหน้าที่คล้ายบาเรียป้องกันตัวเขาไว้ จึงยากที่ศัตรูทั่วๆ ไปจะสามารถโจมตีโดนตัวเขาได้
  • ความสามารถทางด้านไสยเวท
    • โคคุเซน ( Kokusen ) หรือที่เข้าใจกันว่า “ประกายทมิฬ” เป็นไสยเวทพื้นฐานที่เหล่าผู้ใช้ไสยเวทจะใช้ได้เป็นลำดับแรกๆ ประกายทมิฬเป็นเทคนิคในการบิดเบือนพลังงานคำสาปทำให้คำสาปกลายเป็นสีดำ และพลังนี้จะส่งผลให้การโจมตีทรงพลังและมีผลทางกายภาพมาก
    • สภาวะไร้ที่สิ้นสุด (Limitless ) หรือไร้ขีดจำกัด เป็นความสามารถเฉพาะตัวของคนในตระกูลโกโจ รูปแบบพลังไสยเวทมีหลากหลายแยกย่อยออกไปอีก ที่เด่น ๆ ก็เช่น อาโอะ ( ไสยเวทหมุนตาม : น้ำเงิน ) หรือก็คือการสร้างแรงดึงดูด, อากะ ( ไสยเวทหมุนทวน : แดง ) ก็จะมีผลตรงกันข้ามกับอาโอะ ( น้ำเงิน ) เปลี่ยนคุณสมบัติของสีน้ำเงินจากการดูดเข้าหาเป็นการผลักออกแต่จะรุนแรงกว่าเป็นเท่าตัว, มุราซากิ (ไสยเวททำลายล้างม่วง ) เป็นพลังที่มีอนุภาคพลังทำลายล้างมากกว่ารูปแบบไหนๆ เป็นการผสมผสานระหว่าง “สีน้ำเงิน” ที่เป็นแรงดึงดูดและ “สีแดง” ที่เป็นแรงผลัก จากนั้นก็จะเกิดภาวะเอกฐานระยะยาวและสามารถทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างในบริเวณพื้นที่ของระยะพลังได้ในทันที
  • การกางอาณาเขตโกโจคือมุเรียวคูโฉะ หรือก็คืออาณาเขตพื้นที่ไร้มาตร จัดเป็นเขตแดนไร้ขีดจำกัดตามแบบฉบับพลัง เป็นอาณาเขตที่จะทำให้คู่ต่อสู้นั้นไม่สามารถขยับได้ กว่าจะรู้สึกตัวก็ถูกกำจัดไปแล้ว เรียกว่าตึงสุดๆ คนนี้

2. เกะโท สุงุรุ

เกะโท หรือ เกโท เขาคนนี้เปิดตัวมาในฐานะตัวร้าย แต่ในภาคนี้จะเป็นการย้อนวัยของเขาก่อนเขาจะก้าวสู้ด้านมืด แต่ถ้าใครดูเดอะมูฟวี่มาแล้วก็จะรู้ว่าเกะโทตัวจริงนั้นก็จากโลกไปแล้ว แล้วทำไมเขายังมีบทบาทมาโดยตลอดนั้นรออนิเมะเฉลยแล้วกันนะ และในอนิเมะซีซั่น 2 เราก็จะได้เห็นเขาในเวอร์ชันนักเรียนที่เป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของโกโจและเขาในเวอร์ชันร้ายสุดๆ แรกเริ่มเขาคนนี้จัดว่าเป็นคนที่ใจดีกว่าซาโตรุมากๆ นะ แต่แล้วก็มีเหตุการณ์บางอย่างให้เขาเกลียดคนที่ไม่ใช้ผู้ไสยเวท และเขาก็จะมักเรียกคนเหล่านั้นว่า “ลิง” สำหรับเกะโทนั้นถ้าเขาไม่ดิ่งลงด้านมืดและยังคงอยู่กับโกโจนั้นเขาก็จะถือว่าเป็นคนที่แข็งแกร่งสุดๆ อีกคนหนึ่งเลย

ด้านพลังและความสามารถ

  • ความฉลาดและมีกลยุทธ์ที่ดีเสมอ เขาจะเป็นคนที่ค่อนข้างฉลาด สามารถจดจำรายละเอียดต่างๆ ได้ดี มีไหวพริบในการคิดกลยุทธ์ในการต่อสู้ สามารถประมวลผลและวิธีรับมือคู่ต่อสู้ล่วงหน้าเสมอ ในบางครั้งผู้ที่แข็งแกร่งเหนือเขาก็มักจะตกหลุมพรางของเขาเสมอ
  • จูเรอิ โซจุสึ ( การจัดการวิญญาณต้องคำสาป ) เขาสามารถความคุมวิญญาณคำสาปที่เขาต่อสู้ชนะรวมถึงพวกคำสาปที่พเนจร กักเก็บมาเป็นของเขาทำให้เขาสามารถความคุมวิญญาณคำสาป ( ด้วยการกิน ) และดึงออกมาใช้งานได้ ด้วยเหตุนี้ทำให้เขากักเก็บวิญญาณคำสาปไว้กับตัวเขาเยอะมาก จึงทำให้หลายๆ คนไม่อยากจะฆ่าเขาเพราะไม่มีใครกล้าการันตีว่าหากเขาตายวิญญาณคำสาปที่เขากักเก็บไว้กับเขานั้นจะออกมาอาละวาดหรือไม่นั่นเอง
  • โกคุโนะบัง・อุซึมากิ อุซึมากิที่ว่ามานี้ไม่ใช่อุซึมากิ นารูโตะนะแต่เป็นเทคนิคขั้นสูงสุดของจูเรอิ โซจุสึ เป็นการรวมคำสาปทั้งหมดของเขาเพื่อใช้ในการโจมตีแบบรุนแรงเพียงครั้งเดียว ซึ่งท่าไม้ตายนี้เขาได้ใช้มันแล้วในการต่อสู้กับยูตะและริกะในเดอะมูฟวี่

3. โชโกะ อิเอริ

ในซีวั่นแรกโชโกะปรากฏตัวในรูปแบบผู้หญิงตัวสูงที่มีผมสีน้ำตาลยาว และมีรอยคล้ำพร้อมถุงใต้ตาจากการทำงานหนักอย่างชัดเจน แต่ในซีซั่นสองเราก็จะเห็นในวัยนักเรียนซึ่งว่ากันตามตรงแวบแรกที่เห็นนึกว่าโนบาระ แต่นิสัยคนละเรื่องกับโนบาระเลย เธอมีนิสัยนิ่งเงียบ สงบกว่าโกโจและก็เป็นเพื่อนสนิททั้งกับโกโจและเกะโท หลังเรียนจบเธอก็กลายเป็นแพทย์ประจำโรงเรียน และความสามารถด้านไสยเวทของเธอก็คือการสาปแช่งย้อนกลับ

  • วามสามารถด้านสาปแช่งย้อนกลับนี้มีไว้เพื่อรักษาคนที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งความสามารถนี้ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถทำได้ ดังนั้นความสามารถของเธอจึงเป็นอะไรที่หาได้ยากมาก ดังนั้นเธอจึงทรัพยาการที่สำคัญ กับทั้งโรงเรียน และในแวดวงผู้ใช้ไสยเวทเลย

เรื่องน่ารู้อื่นๆ ของโชโกะ

  • งานอดิเรกของโชโกะคือการดื่มแอลกอฮอล์ และเป็นคนที่ดื่มหนักที่สุด
  • อาหารที่ชอบที่สุดก็คือ แอลกอฮอล์
  • อาหารที่ชอบน้อยที่สุดคือ ของหวาน
  • สาเหตุของความเครียด: การเข้างานกะกลางคืนล

4. นานามิ เคนโตะ

นานามิในซีซั่นแรกมาในทรงแด๊ดดี้ แด๊ดดี้ที่ไม่ได้แปลว่าพ่อ และมีบุคลิกที่ฉีกจากโกโจมากๆ เลยมีทั้งความสุขุม สุภาพ สงบไม่ค่อยแสดงความรู้สึกมากนัก ในบริบทของอาจารย์ก็ถือว่าเป็นอาจาารย์ที่ดี แต่ในบริบทนักเรียนในซีซั่น 2 ก็ดูวัยโจ๋อยู่เหมือนกันนะเดิมทีหลังเรียนจบเขาก็ไปเป็นพนักงานบริษัทได้ 4 ปี แต่สุดท้ายเขาก็ลาออกเพราะเขาไม่ชอบการทำงานล่วงเวลา ( O.T ) แล้วก็กลับมาเป็นอาจารย์สอนในโรงเรียนไสยเวทพร้อมอาวุธคู่ใจดาบที่มีอาคมไสยเวท ตัวดาบจะพันด้วยผ้าขาวดำเป็นดาบทื่อแต่สามารถตัดทุกอย่างให้ขาดเป็นสองท่อนได้อย่างง่ายดาย

ความสามารถทางด้านไสยเวท

  • โคคุเซน ( Kokusen ) ก็อย่างที่บอกไปว่ามันเป็นท่าพื้นฐานที่เหล่าอาจารย์ทุกคนรวมถึงนักเรียนก็สามารถใช้ได้
  • Overtime ( โอเวอร์ไทม์ ) โหมดปกติของนานามิจะจำกัดปริมาณพลังคำสาปในขณะสู้ แต่ถ้าสู้ๆ อยู่แล้วมันมีวี่แววว่าจะยืดเยื้อกินเวลางานจนเขาต้องทำงานล่วงเวลาเขาก็จะปลดปล่อยพลังเต็มสูบ โอเวอร์ไทม์เป็นพลังที่มีข้อผูกมัดด้วยเวลาหากมันเกินเวลาที่กำหนดไว้พลังไสยเวทมันก็จะเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณเพื่อเร่งรัดให้จบงานอย่างรวดเร็ว
  • ทูคาคุจูโฮ (Tookaku Juhō ) คือ เทคนิคการโจมตีอัตรา หลักการทำงานก็คือการแบ่งเป้าหมายหรือศัตรูของเขาด้วยเส้นตรง และแบ่งเป็น 10 ส่วน บังคับสร้างจุดอ่อนที่อัตราส่วน 7:3 และกำหนด ‘จุดอ่อน’ ของศัตรู จากนั้นก็บังคับการโจมตีโดยมุ่งเน้นไปที่จุดอ่อนของศัตรูตามอัตราส่วนที่แบ่งออกมา ความรุนแรงของความสามารถนี้คือสามารถทำให้ศัตรูถูกฟันขาดเป็นท่อนๆ ได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว

5. เมเม

“เมเม” หรือ “เหมยเหม่ย” เป็นผู้หญิงที่สงบสุขุมและผ่อนคลาย ใจดีและซื่อสัตย์ ตอนเป็นอาจารย์จะถักเปียสองเปีย หนึ่งเปียอยู่ด้านหน้าและอีกเปียอยู่ด้านหลัง แต่รูปลักษณ์สมัยเป็นนักเรียนนี้ดูเป็นสาวเท่นะ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนไปก็คือความชอบเงินของเธอนั่นเอง ทางเราค่อนข้างชอบเมเมเลย สำหรับเมเมนั้นเธอจะชอบทำงานล่วงเวลามากเพราะเธอชอบเงินนั่นเอง

ความสามารถทางด้านไสยเวท

เธอถนัดทั้งต่อสู้ในระยะประชิด และระยะไกล จะอาคมหรือทักษะพลังกายก็แข็งแกร่งเอาเรื่อง แข็งแกร่งขนาดที่ว่าตัวโกโจเองก็เคยกล่าวไว้ในอดีตว่าเขานั้นเชื่อว่า เมเมคือคนที่แข็งแกร่งและมีความสามารถมาก

เรื่องน่ารู้อื่นๆ ของเมเม

  • งานอดิเรกของเมเมคือการนับเงิน
  • สิ่งที่ทำให้เมเมเครียดคือ ภาษี
  • อาหารจานโปรดคือ บักกุ๊ดเต๋ (อาหารมาเลเซีย)

6. อุตาฮิเมะ อิโอริ

อุตาฮิเมะเป็นอาจารย์โรงเรียนไสยเวทเกียวโต และแน่นอนว่าเธอก็เคยเป็นนักเรียนมาก่อนและเธอก็จะได้ย้อนวันวานในซีซั่นสองเช่นกัน อุตาฮิเมะเป็นคนใจเย็น เคร่งขรึม เป็นคนคีพลุคและใจดีแต่ก็มักจะหลุดการคีพลุคเม่อเจอโกโจ ซาโตรุ ซึ่งเราก็อาจจะได้รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับสองคนนี้ถึงได้ไม่ค่อยถูกกัน

  • ความสามารถทางด้านไสยเวท คือ โซโร โซโร คินคุ เป็นไสยเวทพื้นฐานของเธอ เป็นพลังที่สามารถช่วยขยายพลังสาปแช่งของผู้ใช้ไสยเวทคนอื่นที่อยู่ในระยะแบบชั่วคราว รวมถึงขยายพลังของตัวเธอเองด้วย

เรื่องน่ารู้อื่นๆ ของอุตาฮิเมะ อิโอริ

  • งานอดิเรกของเธอคือการดูกีฬาและไปร้องคาราโอเกะ
  • อาหารจานโปรด คือ แอลกอฮอล์ โดยเฉพาะเบียร์
  • อาหารที่ไม่ค่อยชอบ คือ ของหวาน
  • สาเหตุของความเครียด คือ โกโจ ซาโตรุ

7. ริโกะ อามาไน

ร่างหล่อเลี้ยงดาวหรือก็คือ “ริโกะ” เด็กสาวรูปร่างผอมบาง ริโกะนั้นเสียพ่อแม่ในอุบัติเหตุทางรถยนต์ไปตั้งแต่อายุได้ 4 ขวบ จากนั้นเธอได้รับการดูแลจากมิซาโตะ คุโรอิ ระดับความสามารถโดยรวมของเธอนั้นบอกเลยว่าเธอไม่ใช่สายต่อสู้เลย แต่เธอสามารถมองเห็นคำสาปได้และมีความเข้าใจเกี่ยวผู้ใช้ไสยเวท ซึ่งเธอจะมีบทบาทที่สำคัญมากๆ ในซีซั่นนี้

8. โทจิ ฟุชิงุโระ

ปิดท้ายไปด้วยตัวร้ายตัวตึงของซีซั่นนี้ “โทจิ ฟุชิงุโระ” หรือ “โทจิ เซนอิง” และเขาคนนี้ก็คือป๊ะป๊าของฟุชิงุโระ เมงุมิ ตัวเขานั้นเคยเป็นเขยตระกูลเซนอิง แต่เพราะปัดเป่าคำสาปไม่ได้เขาจึงไม่ได้รับการปฏิบัติที่ดีจากตระกูลเซ็นอิง และชีวิตเขาก็ดูจะแย่มากๆ เลยนะเพราะเขาไม่มีเงินชีวิตเขาก็จะเน้นอาศัยบ้านฝ่ายหญิงที่เขาคบหา แต่ต่อให้เขาหาเงินก้อนใหญ่มาได้เขาก็ใช้หมดภายในพริบตาเพราะเขาติดการพนันนั่นเอง แต่ก็เริ่มดูเป็นผู้เป็นคนตอนที่แต่งงานกับแม่ของเมงุมิแต่พอเธอตายเขาก็กลับมาเป็นคนเดิม

  • ความโดดเด่นและความสามารถของโทจิ

ทั้งๆ ที่ไม่มีพลังไสยเวทเลยแต่ทำไมกลับกลายเป็นคนที่ตึงมือรับมือยากสุดได้ล่ะ โดยทั่วไปต่อให้ไม่ใช่ผู้ใช้ไสยเวทแต่คนส่วนใหญ่ก็จะมีพลังเจือปนอยู่บ้าง ทำให้ผู้ใช้ไสยเวทรับรู้ถึงตำแหน่งได้ แต่เพราะโทจินั้นไม่มีพลังไสยเวทเลย ทำให้ผูใช้ไสยเวทอื่นๆ ไม่สามารถรับรู้และระบุตำแหน่งของเขาได้ แม้กระทั่งริคุกันของโกโจเองก็ไม่สามารถรู้สึกถึงเขาได้ แต่ในทางตรงกันข้ามโทจิกลับมีความสามารถในการรับรู้ถึงคำสาปได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5

นอกจากนี้เขายังมีพลังกายที่ยอดเยี่ยมจนสามารถต้านทานคำสาปได้ ส่งผลให้เขาสามารถเลี้ยงวิญญาณคำสาปไว้ได้อีก และถ้าโทจิเก็บเหล่าวิญญาณคำสาปนี้ไว้ในตัวเขา ผู้ใช้ไสยเวทอื่นก็จะไม่รู้สึกถึงวิญญาณคำสาปตนนั้นอีก ซึ่งเจ้าวิญญาณคำสาปตัวนี้มันมีความสามารถในการยืดหดตัวและสามารถเก็บพวกอาวุธไสยเวทไว้ในตัวมันได้ ซ่อนในซ่อนไปอีก อาวุธซ่อนในตัววิญญาณคำสาป วิญญาณคำสาปซ่อนในตัวโทจิ โอ้โห้ ไม่ตึงได้ไงล่ะ

และนี้ก็เป็น 8 ตัวละครสุดที่โดดเด่น น่าสนใจมากๆ ในซีซั่น 2 ใครชอบคนไหนมากเป็นพิเศษมาคอมเมนต์บอกกันได้นะคะ ส่วนเรานั้นก็ยังคงชอบเมเมหมดใจอยู่ดีค่ะ สุดท้ายนี้หากใครที่รู้สึกชอบบทความนี้ก็แชร์ออกไปได้เลยค่ะ